Search results

12 results in 0.12s

หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

    การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัย ๑) เพื่อศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของชาวพุทธ ๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ๓) เพื่อวิเคราะห์การปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก จากกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน ๕๐ คน และกระบวนการกลุ่มจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๖ คน นำมารวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ๑. ผลการศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธ แก่นพระศาสนาโดยการเข้าถึงสาระแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ถือหลักคิดดี พูดดี ทำดี และสามารถเข้าถึงทั้งด้วยการทำบุญให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนาตามลำดับ และที่สำคัญคือการปฏิบัติตามหลักการของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้เรียกว่า “โอวาทปาติโมกข์” พระโอวาทที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาในโอวาทปาติโมกข์นั้น มีหลักการสำคัญที่ทรงวางไว้เป็นหลักทั่วไป ๓ ประการ คือสอนไม่ให้ทำความชั่วทั้งปวง (ละเว้นชั่ว) สอนให้อบรมกุศลให้ถึงพร้อม (ประกอบความดี) สอนให้ทำจิตใจของตนให้ผ่องใส (ทำจิตผ่องใส) ไตรสิกขา กุศลกรรมบถ ๑๐ และธรรมกถึก ๕ การพยายามทำตามคำสอน ในหลักการนี้เป็นการพยายามทำความดีที่เรียกว่าทำบุญ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงวัตถุที่ ตั้งแห่งการทำบุญไว้โดยย่อเรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ” มี ๓ ประการ คือ ทานการบริจาคสิ่งของตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ศีลการรักษากายวาจาให้สงบเรียบร้อยไม่ล่วงบัญญัติที่ทรงห้ามภาวนาการอบ รมจิตใจให้ผ่องใสในการกุศลบุญกิริยาวัตถุ และหลักการปฏิบัติของพุทธบริษัท ๔ ได้แก่ ๑) ภิกษุและภิกษุณี มีหน้าที่ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แล้วนำธรรมะมาสั่งสอนแนะนำให้ผู้อื่นรู้ตามเห็นตาม ส่งเสริมวิธีการประพฤติปฏิบัติข้อวัตรที่ถูกต้อง ๒) อุบาสกและอุบาสิกาเป็นผู้ใกล้ชิดพุทธศาสนามีหน้าที่ศึกษาประพฤติปฏิบัติตามคำสอนและเป็นผู้ทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ๒.
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัย ๑) เพื่อศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของชาวพุทธ ๒) เพื่อศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ๓) เพื่อวิเคราะห์การปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก จากกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน ๕๐ คน และกระบวนการกลุ่มจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๖ คน นำมารวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ๑. ผลการศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธ แก่นพระศาสนาโดยการเข้าถึงสาระแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ถือหลักคิดดี พูดดี ทำดี และสามารถเข้าถึงทั้งด้วยการทำบุญให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนาตามลำดับ และที่สำคัญคือการปฏิบัติตามหลักการของพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้เรียกว่า “โอวาทปาติโมกข์” พระโอวาทที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาในโอวาทปาติโมกข์นั้น มีหลักการสำคัญที่ทรงวางไว้เป็นหลักทั่วไป ๓ ประการ คือสอนไม่ให้ทำความชั่วทั้งปวง (ละเว้นชั่ว) สอนให้อบรมกุศลให้ถึงพร้อม (ประกอบความดี) สอนให้ทำจิตใจของตนให้ผ่องใส (ทำจิตผ่องใส) ไตรสิกขา กุศลกรรมบถ ๑๐ และธรรมกถึก ๕ การพยายามทำตามคำสอน ในหลักการนี้เป็นการพยายามทำความดีที่เรียกว่าทำบุญ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงวัตถุที่ ตั้งแห่งการทำบุญไว้โดยย่อเรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ” มี ๓ ประการ คือ ทานการบริจาคสิ่งของตนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ศีลการรักษากายวาจาให้สงบเรียบร้อยไม่ล่วงบัญญัติที่ทรงห้ามภาวนาการอบ รมจิตใจให้ผ่องใสในการกุศลบุญกิริยาวัตถุ และหลักการปฏิบัติของพุทธบริษัท ๔ ได้แก่ ๑) ภิกษุและภิกษุณี มีหน้าที่ศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แล้วนำธรรมะมาสั่งสอนแนะนำให้ผู้อื่นรู้ตามเห็นตาม ส่งเสริมวิธีการประพฤติปฏิบัติข้อวัตรที่ถูกต้อง ๒) อุบาสกและอุบาสิกาเป็นผู้ใกล้ชิดพุทธศาสนามีหน้าที่ศึกษาประพฤติปฏิบัติตามคำสอนและเป็นผู้ทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา ๒.
ผลการศึกษาหลักพุทธปรัชญาเถรวาทเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประ ชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด อุบาสก อุบาสิกาปฏิบัติหน้าที่ของชาวพุทธตามทัศนะของประชา ชนยึดตามหลักประเพณีปฏิบัติเป็นสำคัญ ส่วนภิกษุในพระพุทธศาสนามีหน้าที่ศึกษาปฏิบัติธรรมเผยแผ่คำสอนสืบต่อพระพุทธศาสนา มีคุณธรรมและหลักความประพฤติที่ต้องปฏิบัติมากมาย แต่ในที่นี้จะแสดงไว้เฉพาะหน้าที่ที่สัมพันธ์กับคฤหัสถ์ และข้อเตือนใจในทางความประพฤติปฏิบัติ อนุเคราะห์ชาวบ้าน ภิกษุ อนุเคราะห์คฤหัสถ์ตามหลักปฏิบัติในฐานะที่ตนเป็นเสมือน ทิศเบื้องบน ห้ามปรามสอนให้เว้นจากความชั่ว แนะนำสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในความดี ส่วนหน้าที่ของ อุบาสก อุบาสิกา พุทธ ศาสนิกชนมีหลักปฏิบัติที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับพระพุทธศาสนา เกื้อกูลพระโดยปฏิบัติต่อพระ ภิกษุเสมือนเป็นทิศเบื้องบน จะทำสิ่งใดก็ทำด้วยเมตตา จะพูดสิ่งใดก็พูดด้วยเมตตา จะคิดสิ่งใดก็คิดด้วยเมตตา ต้อนรับด้วยความเต็มใจ อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย ๔ กระทำบุญ คือ ทำความดีด้วยวิธีการต่างๆ ที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ และทำบุญด้วยการให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในการทำความดี ปัตตานุโมทนามัยทำ บุญด้วยการพลอยยินดีในการทำความดีของผู้อื่น ธัมมัสสวนมัย ทำบุญด้วยการฟังธรรม ศึกษาหาความรู้ที่ปราศจากโทษ ธัมมเทสนามัย ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทิฏฐุชุ กรรม ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้อง รู้จักมองสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงให้เป็นสัมมาทิฏฐิ คุ้นเคยใกล้ชิดกับพระศาสนา ถ้าจะปฏิบัติให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น ถึงขั้นเป็นอุบาสก อุบาสิกา คือผู้ใกล้ชิดพระศาสนาอย่างแท้จริง ๓. ผลการวิเคราะห์การปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธตามทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด หน้าที่ชาวพุทธศาสนิกชนยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการดำรงชีวิตคือเรียน รู้ธรรมะ อริยสัจ ๔ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา ต้องรู้จักกฎไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ทุกขังและอนัตตา รู้จักศีล ๕ ปฏิบัติธรรม เผยแพร่ธรรมะ เพราะพุทธธรรมเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า การเผยแพร่ธรรมะและปกป้องพุทธศาสนารักษา มรดกอันล้ำค่าไว้ให้แก่มวลมนุษย์นั่นคือหลักธรรม อันเป็นสิ่งที่นำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย พวกเราต้องทำตนเป็นชาวพุทธที่ดีและการปฏิบัติหน้าที่ชาวพุทธที่ดีคือ ศึกษาหาความรู้ ปฏิบัติตามหลักธรรมและรักษาประเพณีพิธีกรรมทางศาสนาให้ถูกต้อง
The thesis served its particular purposes: 1) to study key portions of Theravada Buddhist philosophy on Buddhists’ duties, 2) to study Theravada Buddhist philosophy on their duties following concepts of Buddhist residents in Roi Et Provincial Municipality’s authorized area, 3) to analyze their duties following their concepts. It was derived from the quantitative research methodology. Data were collected from such secondary sources as relevant texts, in-depth interviews, and group discussions. Samples were fifty residents, excluding six residents from the process of group discussions. Findings were analyzed with the descriptive method. Results of the study have found: 1) Accessing Buddhism’s essence can be able to do by three meritorious actions of generosity, precept observance and mental development respectively. The practice complies with the Buddha’s three key teachings (Ovadapatimokkha), not to do any evil, to do good deeds and purify one’s mind. Other key teachings are Threefold Trainings, and Five qualities of a preacher. In a bid to follow these teachings, it amounts to making merits by making three meritorious actions, which are offering their own belongings for benefits of other, regulating one’s body and mind by not violating the code of conducts prohibited by the Buddha. Buddhists’ duties are divided into two headings according to their practice. Buddhist monks’ and nuns’ main duties focus on studying dharma and codes of conducts, and undertaking insight development in order to teach others. Male and female Buddhists’ duties are following the Buddha’s teahings, becomes strong supporters of Buddhism. 2) Buddhists’ duties according to Buddhist residents’ concepts in Roi Et provincial Municipality’s authorized area have found that Buddhist monks’ duties are studying, practicing dharma, disseminating it, maintaining Buddhism, possessing ethics and decent codes of conducts. Generally, Buddhist monks acting as the upper direction in Buddhism should assist lay disciples preventing them from doing evil deeds, only encouraging them to do good ones. For lay Buddhists’ duties, they have to have close relations with Buddhism. They should treat Buddhist monks as if they are the upper direction in Buddhism by treating them by kindly act, kindly words, kindly thoughts, keeping open house to them, and supplying them with four material needs. Buddhist monks should encourage lay Buddhists to make three merits, called meritorious actions, through three different methods by having others share in making merits, rejoicing in others’ merits, listening to dharma to non-perilous knowledge, teaching dharma to give useful instructions, straightening ones’ views to make them realize things as they really are until they have right views. In so doing, they have close relation with Buddhism. In case of their more stringent practices, they can attain states of close figures to the extent that they really become devout lay disciples of Buddhism. 3) Results of analyses on Buddhists’ duties based on concepts of Buddhist residents in Roi Et Provincial Municipality’s authorized area are divided into three issues. First, they must strictly follow the Buddha’s teachings as the refuge for leading their everyday life by studying such teachings as Four Noble Truths in order to find solutions to the problems. Secondly, they must comprehend Three Characteristics. Finally, they must observe five precepts and disseminate the Buddha’s teachings as his teachings, are regarded as his representative. To put it simply, dissemination of dharma and protection of Buddhism amount to maintaining invaluable heritage, rule of dharma, for all human beings, which it can be applied in every age. As a result, we Buddhists should behave ourselves well and perform our good duties as Buddhists, concretely studying Buddhism, and preserving Buddhism and its rites.
หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม.) สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2554
Note: ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม.) สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2554
หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

    วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาหน้าที่ชาวพุทธในพุทธปรัชญาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาหลักพรหมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท และ ๓) เพื่อศึกษาหน้าที่ชาวพุทธตามหลักพรมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท โดยใช้วิธีวิจัยเอกสาร คือศึกษาค้นคว้าจากคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และตำราอื่นๆ ประกอบ ผลการวิจัยพบว่า หน้าที่ชาวพุทธ หมายถึง สิ่งที่ต้องทำหรือธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องทำเหมือนชาวนาก็มีหน้าที่ต้องทำนาพ่อค้าก็มีหน้าที่ต้องค้าขายครูมีหน้าที่ต้องสอนหนังสือเป็นต้นหากจะชี้แจงในที่นี้ก็มากเหลือที่จะกล่าวได้โดยสิ้นเชิงแต่ถ้ารวบรวมกล่าวให้สั้นแล้วหน้าที่ของคนก็มีอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้นคือหน้าที่ที่ต้องทำแก่ตนเองอย่างหนึ่งและหน้าที่ที่ต้องทำให้แก่คนอื่นอย่างหนึ่งบรรดาหน้าที่ทั้งสองอย่างนั้นหน้าที่ที่ต้องทำแก่ตนเองในฐานะที่เกิดมาเป็นคนนั้นเบื้องต้นต้องพยายามสร้างตนให้มีหลักฐานหลักแหล่งสมกับที่เกิดมาในโลกนี้ให้ได้ก่อนโดยบำเพ็ญคุณธรรมสี่ข้ออันเป็นหลักทำประโยชน์ที่ตนต้องการในปัจจุบันให้สำเร็จ พรหมชาลสูตร เป็นข่ายที่ทำให้สมณพราหมณ์หลงอยู่ในความเห็นผิด (ทิฏฐิ ๖๒ ประการ) จนต้องติดข้องอยู่กับเวียนว่ายตายเกิด ดุจข่ายคลุมไว้ อาศัยอยู่ในข่ายนี้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในข่ายนี้ ติดอยู่ ในข่ายนี้ ถูกข่ายคลุมไว้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในข่ายนี้ เปรียบเหมือนชาว ประมงหรือลูกมือชาวประมงผู้ฉลาด ใช้แหตาถี่ทอดลงยังหนองน้ำเล็กๆ เขาคิดอย่างนี้ว่า บรรดาสัตว์ใหญ่ๆ ในหนองนี้ทั้งหมด ถูกแห คลุมไว้ ติดอยู่ในแห เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในแห ติดอยู่ในแหนี้ ถูกแห คลุมไว้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในแห ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะ หรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็ฉันนั้น หน้าที่ชาวพุทธตามหลักพรมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท “เบญจศีล” หรือศีลทั้ง ๕ ข้อ เป็นศีลข้อกำหนดสำหรับชาวพุทธทั่วไปควรรักษา คุณค่าของเบญจศีลนี้ “เบญจศีล” เป็นหลักควบคุมความประพฤติเบื้องต้นของมนุษย์ ให้มนุษย์ตั้งอยู่ในคุณธรรม เพื่อให้ประพฤติความดียิ่งขึ้นไป ดังเช่นคนเราจะเขียนหนังสือได้ดี และตรงสวยงาม เริ่มแรกจำต้องอาศัยเส้นบรรทัดเป็นหลัก ตัวอักษรที่ปรากฏจะตรงดี และเรียบร้อย หาไม่ก็จะคดเคี้ยวขาดความสวยงาม ครั้นเมื่อชำนาญดีแล้ว ก็สามารถเขียนให้ตรงโดยไม่อาศัยเส้นบรรทัดได้ การประพฤติธรรม ประพฤติความดี ก็ฉันนั้น เริ่มแรกจำต้องอาศัยอะไรสักอย่างเป็นหลัก ให้เกิดความมั่นคง และเป็นพื้นฐาน
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาหน้าที่ชาวพุทธในพุทธปรัชญาเถรวาท ๒) เพื่อศึกษาหลักพรหมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท และ ๓) เพื่อศึกษาหน้าที่ชาวพุทธตามหลักพรมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท โดยใช้วิธีวิจัยเอกสาร คือศึกษาค้นคว้าจากคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และตำราอื่นๆ ประกอบ ผลการวิจัยพบว่า หน้าที่ชาวพุทธ หมายถึง สิ่งที่ต้องทำหรือธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องทำเหมือนชาวนาก็มีหน้าที่ต้องทำนาพ่อค้าก็มีหน้าที่ต้องค้าขายครูมีหน้าที่ต้องสอนหนังสือเป็นต้นหากจะชี้แจงในที่นี้ก็มากเหลือที่จะกล่าวได้โดยสิ้นเชิงแต่ถ้ารวบรวมกล่าวให้สั้นแล้วหน้าที่ของคนก็มีอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้นคือหน้าที่ที่ต้องทำแก่ตนเองอย่างหนึ่งและหน้าที่ที่ต้องทำให้แก่คนอื่นอย่างหนึ่งบรรดาหน้าที่ทั้งสองอย่างนั้นหน้าที่ที่ต้องทำแก่ตนเองในฐานะที่เกิดมาเป็นคนนั้นเบื้องต้นต้องพยายามสร้างตนให้มีหลักฐานหลักแหล่งสมกับที่เกิดมาในโลกนี้ให้ได้ก่อนโดยบำเพ็ญคุณธรรมสี่ข้ออันเป็นหลักทำประโยชน์ที่ตนต้องการในปัจจุบันให้สำเร็จ พรหมชาลสูตร เป็นข่ายที่ทำให้สมณพราหมณ์หลงอยู่ในความเห็นผิด (ทิฏฐิ ๖๒ ประการ) จนต้องติดข้องอยู่กับเวียนว่ายตายเกิด ดุจข่ายคลุมไว้ อาศัยอยู่ในข่ายนี้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในข่ายนี้ ติดอยู่ ในข่ายนี้ ถูกข่ายคลุมไว้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในข่ายนี้ เปรียบเหมือนชาว ประมงหรือลูกมือชาวประมงผู้ฉลาด ใช้แหตาถี่ทอดลงยังหนองน้ำเล็กๆ เขาคิดอย่างนี้ว่า บรรดาสัตว์ใหญ่ๆ ในหนองนี้ทั้งหมด ถูกแห คลุมไว้ ติดอยู่ในแห เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในแห ติดอยู่ในแหนี้ ถูกแห คลุมไว้ เมื่อผุดก็ผุดอยู่ในแห ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะ หรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็ฉันนั้น หน้าที่ชาวพุทธตามหลักพรมชาลสูตรในพุทธปรัชญาเถรวาท “เบญจศีล” หรือศีลทั้ง ๕ ข้อ เป็นศีลข้อกำหนดสำหรับชาวพุทธทั่วไปควรรักษา คุณค่าของเบญจศีลนี้ “เบญจศีล” เป็นหลักควบคุมความประพฤติเบื้องต้นของมนุษย์ ให้มนุษย์ตั้งอยู่ในคุณธรรม เพื่อให้ประพฤติความดียิ่งขึ้นไป ดังเช่นคนเราจะเขียนหนังสือได้ดี และตรงสวยงาม เริ่มแรกจำต้องอาศัยเส้นบรรทัดเป็นหลัก ตัวอักษรที่ปรากฏจะตรงดี และเรียบร้อย หาไม่ก็จะคดเคี้ยวขาดความสวยงาม ครั้นเมื่อชำนาญดีแล้ว ก็สามารถเขียนให้ตรงโดยไม่อาศัยเส้นบรรทัดได้ การประพฤติธรรม ประพฤติความดี ก็ฉันนั้น เริ่มแรกจำต้องอาศัยอะไรสักอย่างเป็นหลัก ให้เกิดความมั่นคง และเป็นพื้นฐาน
This thesis serves the purposes: 1) to study Buddhist duties in Theravada Buddhist Philosophy, 2) to study on Brahmajala Sutta in Theravada Buddhist Philosophy, and 3) to study Buddhist duties according to Brahmajala Sutta in Theravada Buddhist Philosophy. Using the document research method Is studying the Buddhist scriptures. Relevant research and other textbooks. The results of the research were found that: The Buddhist duties mean something to do or business, something that needs to be done like a farmer is obliged to do the farmer, it is obliged to trade, the teacher is obliged to teach the book, etc. If you clarify here, it is very much. But to summarize briefly, there are only two functions: one's own duty and one's own. To make one the other, both of these duties must be done to themselves as they are born, in the first place, to try to establish oneself with the first place in the world. Four virtuous virtues are the four main virtues that they are doing today. Brahmajala Sutta is a net that made Brahmins in the wrong opinion. That causes the Brahmin monks to commit wrongdoing (62 Views), so that they must be involved in the death penalty. As the sutras say, "Monks are everywhere. It is a monk or a Brahman. The past is good, defining of the future, define of the past and of the future is good. There are opinions in both past and future. All these Brahmans were involved in 62 views. As veiled Live in this world when it pops out, it is in this network attached to the pitfall net is covered. The role of the Buddhists in accordance with the principles of ritual Buddhist Theravada Buddhist philosophy “Panca Sila” or the five precepts as a precept. The value of this Benjamin, “Benjamin” is the primary control of human conduct. To be human in virtue, to keep up the good as a man, we will write well and beautifully. Initially, we need to rely on the lines. The letters appear to be straight and good, not to be twisted beautiful. Now when it is good it can be written straight without lines and good conduct. First of all, I have to rely on something to secure and as a basis.
หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม.) สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2552
Note: ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม.) สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2552
หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2554
Note: ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ สาขาสังคมวิทยา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2554