วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทิศ 6 ในพุทธปรัชญาเถรวาท 2) เพื่อศึกษาปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท และ 3) เพื่อวิเคราะห์ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก อรรถกถา หนังสือ เอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2560–มิถุนายน 2561 ผลการวิจัยพบว่า: ทิศ 6 ในพุทธปรัชญา ประกอบด้วย 1) ปุรัตถิมทิศ คือ มารดาบิดา 2) ทักขิณทิศ คือ ครูอาจารย์ 3) ปัจฉิมทิศ คือ บุตรภรรยา 4) อุตตรทิศ คือ มิตร 5) เหฏฐิมทิศ คือบ่าว คนรับใช้ คนงาน และ 6) อุปริมทิศ คือ พระสงฆ์ ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญา คือ ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดามารดา ท่านทั้งสองเป็นผู้มีอุปการะก่อน เป็นผู้มาก่อน ให้การเลี้ยงดูบุตรธิดา ให้การศึกษา ให้ที่อยู่อาศัยมาก่อน สำหรับมารดานั้น ท่านให้บุตรธิดาอาศัยทั้งในกายและนอกกาย กล่าวคืออาศัยอยู่ในครรภ์และอาศัยอยู่ในเรือนเมื่อคลอดออกมาอบรมบ่มนิสัยให้บุตรอยู่ในศีลธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ทั้งพฤติกรรมทางกาย วาจา แม้กระทั่งจิตใจมารดาบิดาต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนรับผิดชอบต่อการดำเนินชีวิตของบุตรจนกว่าจะมีครอบครัวรับผิดชอบชั่วดีต่อตนเองได้ ผลการวิเคราะห์ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท พบว่า หน้าที่ของบิดามารดา ได้แก่ การอบรมสั่งสอนบุตรธิดา การปฏิบัติตนตามครรลองคลองธรรม การเป็นแบบอย่างที่ดี การปลูกฝังให้บุตรธิดาได้รับรู้ในสิ่งที่ดีและนำไปปฏิบัติ บุตรธิดาจะเป็นคนดีมีคุณธรรมนั้นเกิดจากการอบรมสั่งสอนของบิดามารดา ส่วนบุตรธิดาพึงสำนึกในบุญคุณของท่านที่ทำให้แก่ตนโดยความบริสุทธิ์ใจ กล่าวคือ ประกาศคุณท่าน ได้แก่ ประกาศความดีของท่านที่มีต่อตนหรือด้วยการปฏิบัติตนเป็นคนดีและตอบแทนคุณท่าน
วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาทิศ 6 ในพุทธปรัชญาเถรวาท 2) เพื่อศึกษาปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท และ 3) เพื่อวิเคราะห์ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก อรรถกถา หนังสือ เอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2560–มิถุนายน 2561 ผลการวิจัยพบว่า: ทิศ 6 ในพุทธปรัชญา ประกอบด้วย 1) ปุรัตถิมทิศ คือ มารดาบิดา 2) ทักขิณทิศ คือ ครูอาจารย์ 3) ปัจฉิมทิศ คือ บุตรภรรยา 4) อุตตรทิศ คือ มิตร 5) เหฏฐิมทิศ คือบ่าว คนรับใช้ คนงาน และ 6) อุปริมทิศ คือ พระสงฆ์ ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญา คือ ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดามารดา ท่านทั้งสองเป็นผู้มีอุปการะก่อน เป็นผู้มาก่อน ให้การเลี้ยงดูบุตรธิดา ให้การศึกษา ให้ที่อยู่อาศัยมาก่อน สำหรับมารดานั้น ท่านให้บุตรธิดาอาศัยทั้งในกายและนอกกาย กล่าวคืออาศัยอยู่ในครรภ์และอาศัยอยู่ในเรือนเมื่อคลอดออกมาอบรมบ่มนิสัยให้บุตรอยู่ในศีลธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ทั้งพฤติกรรมทางกาย วาจา แม้กระทั่งจิตใจมารดาบิดาต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนรับผิดชอบต่อการดำเนินชีวิตของบุตรจนกว่าจะมีครอบครัวรับผิดชอบชั่วดีต่อตนเองได้ ผลการวิเคราะห์ปุรัตถิมทิสในพุทธปรัชญาเถรวาท พบว่า หน้าที่ของบิดามารดา ได้แก่ การอบรมสั่งสอนบุตรธิดา การปฏิบัติตนตามครรลองคลองธรรม การเป็นแบบอย่างที่ดี การปลูกฝังให้บุตรธิดาได้รับรู้ในสิ่งที่ดีและนำไปปฏิบัติ บุตรธิดาจะเป็นคนดีมีคุณธรรมนั้นเกิดจากการอบรมสั่งสอนของบิดามารดา ส่วนบุตรธิดาพึงสำนึกในบุญคุณของท่านที่ทำให้แก่ตนโดยความบริสุทธิ์ใจ กล่าวคือ ประกาศคุณท่าน ได้แก่ ประกาศความดีของท่านที่มีต่อตนหรือด้วยการปฏิบัติตนเป็นคนดีและตอบแทนคุณท่าน
This thesis served its specific purposes: 1) to study six directions in Theravada Buddhism’s philosophy, 2) to examine Buddhism’s front direction in its philosophy, 3) to analyze the front direction in front in its philosophy. As the documentary research, it was derived from the qualitative methodology. Data were studied out of The Tipitaka, commentaries, books and relevant research undertakings, collected between October B.E. 2560 and June B.E. 2561. Research findings have found that: there are six directions in Theravada Buddhist philosophy, which are: 1) Puriasthima-disa, the direction in front, parents represent it; 2) Dakkhina-disa, the direction in the right, teachers signify it; 3) Pacchima-disa, the direction in the back, wives and children stand for it, 4) Uttara-disa, the direction in the left, friends and companions symbolize them; 5) Hetthima-disa, the direction at the bottom, servants and workmen are treated as the nadir; 6) Uparima-disa, the top direction, Buddhist monks are lauded as the zenith. The direction in front in Theravada Buddhist philosophy refers to parents. The father has been labelled as a pre-benefactors and a pre-comers. He looks after his children, gives education to them, provide them with a shelter. A mother gives her children both inside and outside her body; her child resides in the womb and in the home. After her delivery, she fosters her children until they are grown-up. In a meanwhile, they receives trainings so that her child to equip them with good virtues and morality for physical and verbal decency. Even in parents’ mind, they have to hold fully responsible for leading children’s lives until they each have a family and they can take full responsibilities by themselves. Analyses of the direction in front in Theravada Buddhist philosophy have found that parents’ duties are: training their children to be good, behaving well as a good role model, and encouraging them to do good deeds. Because of parents’ trainings and teachings to have children absorb good practices and bring them into use, they are going to be good citizens and have moral virtues. Parents’ children should recall their great contributions with purified mind, i.e. either making known parents’ good deeds for their children or behaving well as decent children and doing a lot of good in return.