Contents/Summary
- Summary
-
สารนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาคมในการจัดทำแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 2) เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาคมในการจัดทำแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ของประชาคมที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาคมในการจัดทำแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาคมซึ่งอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 118 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยคำนวณจากสูตรทาโร ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติอนุมานหรืออ้างอิง (Inferential Statistics) ได้แก่ การทดสอบค่าที (t-test) การทดสอบความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ผลการวิจัย พบว่า 1) การมีส่วนร่วมของประชาคมในการจัดทำแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการติดตามประเมินผล ด้านการกำหนดปัญหาและความต้องการ ด้านการจัดทำแผนและโครงการ และด้านการตรวจสอบแผนพัฒนา ตามลำดับ 2) ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ประชาคมซึ่งมีเพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทุ่งกุลา อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวม และรายด้าน ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ และ 3) ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย ลำดับตามความถี่สูงไปหาต่ำ สามอันดับแรก ได้แก่ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมตรวจสอบงบประมาณในการจัดทำแผนพัฒนา และโครงการต่างๆ มากยิ่งขึ้น ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมติดตามตรวจสอบเนื้อหาสาระของร่างแผนพัฒนา มากยิ่งขึ้น และควรเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมติดตามประเมินผลในโครงการหรือกิจกรรมที่เทศบาลดำเนินการมากยิ่งขึ้น ตามลำดับ
The purposes of this paper were: 1) to study community members’ participation in drawing up Tambon Thung Kula Municipality’s development plan in Roi Et province’s Suwannaphum district, 2) to compare their participation as such to differing variables of their genders, ages and educational levels, and 3) to examine suggestions for enhancing their participation in the same. The sampling group deducted from samples comprised 118 community members, setting it through from Taro Yamane’s table. The research instrument was the five-rating scale questionnaire handout, of which the whole questions possessed their reliability of IOC at 0.97. Descriptive statistics used for processing data frequency, percentage, mean and standard deviation, including inferential ones on t-test and F-test One-way ANOVA). Results of the research have found the following findings: 1) Community members’ participation in drawing up its development plans have been rated high in the overall aspect, as has a single one taken into consideration. All aspects ranked in their descending order of means are: following up and assessing projects, setting problems and requirements, drawing up plans and projects, examining development plans respectively. 2) The hypothesis testing results have confirmed that their differing variables of genders, ages and educational levels bear no differences in their participation in drawing up its development plans, of which the target results are not conducive to the established hypotheses. 3) Suggestions garnered from the research in descending order of first three frequencies are that the municipality should open up opportunities to residents to: increasingly scrutinize budgets for drawing up development plans and various projects, accumulatively follow up and examine contents of development plan drafts, and incrementally follow up and assess projects or activities undertaken by the municipality respectively.
Bibliographic information