Search results

1 results in 0.02s

หนังสือ

    วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 จำแนกตาม อายุ ตำแหน่ง ประสบการณ์ทำงาน และรายได้ 3)เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ในการวิจัยครั้งนี้ประชากรและกลุ่มตัวอย่างได้แก่ สถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ชั้นสัญญาบัตร 49 นาย ชั้นประทวน 83 นาย รวม 132 นายโดยนำเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม จากนั้นนำแบบสอบถามที่รวบรวมได้นำมาดำเนินการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อคำนวณหาค่าสถิติ สำหรับตอบวัตถุประสงค์ และสมมติฐานการวิจัยให้ครบถ้วนตามที่ตั้งไว้ มีลำดับขั้นตอน โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า 1. สถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ มีความคิดเห็นต่อการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านสมานัตตตา รองลงมา คือ ด้านทาน รองลงมาคือ ด้านปิยวาจา และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านอัตถจริยา 2. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปกครองบังคับบัญชา พบว่า มีความคิดเห็นต่อการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ไม่แตกต่างกัน 3. ข้อเสนอแนะการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 มีดังนี้ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1) ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมช่วยแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ และกระตือรือร้น 2) ผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติงานต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่อง 3) ควรส่งเสริมการฝึกอบรมสัมมนา เพื่อเพิ่มเติมให้ความรู้ความเข้าใจและทักษะให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในตำแหน่งงานต่าง ๆ 4) ควรส่งเสริมการพัฒนาด้านความรู้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาตามความเหมาะสมแต่ละตำแหน่ง เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา และข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ 1) ผู้บังคับบัญชาต้องควรให้ความช่วยเหลือจัดสรรอุปกรณ์เครื่องมือ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานและส่งเสริมผู้ใต้บังคับบัญชาในด้านสวัสดิการอย่างเสมอภาค 2) ผู้บังคับบัญชาต้องใช้คำพูดที่กล่าวด้วยเมตตาจิต แสดงความจริงใจ และมีความปรารถนาดีเสมอ 3) ผู้บังคับบัญชาต้องไม่กล่าววาจาล่วงเกินหรือใช้คำพูดที่สื่อถึงการดูถูก ส่อเสียดหยาบคายและทำร้ายจิตใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา 4) ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมทุกข์ ร่วมสุข เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ร่วมกันกับผู้ใต้บังคับบัญชา
วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 จำแนกตาม อายุ ตำแหน่ง ประสบการณ์ทำงาน และรายได้ 3)เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ในการวิจัยครั้งนี้ประชากรและกลุ่มตัวอย่างได้แก่ สถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ชั้นสัญญาบัตร 49 นาย ชั้นประทวน 83 นาย รวม 132 นายโดยนำเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม จากนั้นนำแบบสอบถามที่รวบรวมได้นำมาดำเนินการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อคำนวณหาค่าสถิติ สำหรับตอบวัตถุประสงค์ และสมมติฐานการวิจัยให้ครบถ้วนตามที่ตั้งไว้ มีลำดับขั้นตอน โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า 1. สถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ มีความคิดเห็นต่อการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านสมานัตตตา รองลงมา คือ ด้านทาน รองลงมาคือ ด้านปิยวาจา และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านอัตถจริยา 2. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการปกครองบังคับบัญชา พบว่า มีความคิดเห็นต่อการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ไม่แตกต่างกัน 3. ข้อเสนอแนะการปกครองบังคับบัญชาของสถานีตำรวจภูธรภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ตามหลักสังคหวัตถุ 4 มีดังนี้ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1) ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมช่วยแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ และกระตือรือร้น 2) ผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติงานต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่อง 3) ควรส่งเสริมการฝึกอบรมสัมมนา เพื่อเพิ่มเติมให้ความรู้ความเข้าใจและทักษะให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในตำแหน่งงานต่าง ๆ 4) ควรส่งเสริมการพัฒนาด้านความรู้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาตามความเหมาะสมแต่ละตำแหน่ง เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา และข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติการ 1) ผู้บังคับบัญชาต้องควรให้ความช่วยเหลือจัดสรรอุปกรณ์เครื่องมือ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานและส่งเสริมผู้ใต้บังคับบัญชาในด้านสวัสดิการอย่างเสมอภาค 2) ผู้บังคับบัญชาต้องใช้คำพูดที่กล่าวด้วยเมตตาจิต แสดงความจริงใจ และมีความปรารถนาดีเสมอ 3) ผู้บังคับบัญชาต้องไม่กล่าววาจาล่วงเกินหรือใช้คำพูดที่สื่อถึงการดูถูก ส่อเสียดหยาบคายและทำร้ายจิตใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา 4) ผู้บังคับบัญชาต้องร่วมทุกข์ ร่วมสุข เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดประโยชน์ร่วมกันกับผู้ใต้บังคับบัญชา
The objectives of this thesis are as follows: 1) to study the administrative control of Phu Khiao Provincial Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province. 2) To study the relationship between personal factors and the administrative control of Phu Khieo Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province according to Sangkhahawatthu 4, classified by age, position, work experience and income 3) To study the recommendations for the supervision of Phu Khieo Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province according to the Sangkhahawatthu 4. In this research, the population and samples were Phu Khiao Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province, commissioned 49 officers, 83 officers, 83 officers, total 132 officers. The research tools were questionnaires. The collected questionnaires were used to analyze and process the data with computer programs to calculate statistics for answering purposes and complete research hypotheses as set have a sequence of steps. The level of statistical significance was set at 0.05. The results showed that 1. The opinions of Phu Khiao Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province on the administration and command of Phu Khieo Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province according to Sangkhahawatthu 4 were the overall at a high level when considering each aspect, it was found that the aspect with the highest mean was Samanattata aspect, followed by Dana aspect, followed by Piyawaja aspect, and the aspect with the lowest mean was Atthajariya. 2. The relationship between personal factors and the administrative control found that there were no differences in the opinions on the administration of Phu Khieo Provincial Police Station, Phu Khieo District, Chaiyaphum Province according to Sangkhahawatthu 4 principle. 3. Recommendations on the governance of Phu Khieo Police Station, Phu Khiao District, Chaiyaphum Province according to Sangkhahawatthu 4, the following policy recommendations 1) The supervisors must help solve various problems that arise with intention and enthusiastic; 2) supervisors must perform various tasks regularly without defect; 3) should promote training seminars to further educate understanding and skills to subordinates in various positions; 4) Knowledge development should be promoted to subordinates as appropriate for each position, such as training, seminars and action recommendations; 1) The supervisors should provide assistance, allocate equipment and tools used in their work and promote equal welfare among their subordinates; 2. The supervisors should talk with their subordinates sincerely and always have good wishes.; 3) The supervisor must not say insulting words or use words that convey insults, sneaky, vulgar and mentally abusive towards subordinates; 4) The superiors must share the suffering and the happiness in order to solve problems for mutual benefit with the subordinates.