สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1). เพื่อศึกษาการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 2) เปรียบเทียบการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยใช้เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมได้แก่ ประชาคมในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 480 ครัวเรือนกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรคำนวณของทาโร ยามาเน่(Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน218 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบปลายปิดและแบบปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t - test ค่า (One–Way ANOVA or F–test) และทดสอบค่าคะแนนเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการ (Least Significant Difference) LSD. ผลการวิจัยพบว่า 1) ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านขยะเปียกและขยะแห้ง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนด้านขยะอันตราย มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ เมื่อจำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ พบว่า โดยรวม อยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ของประชาชน ที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยเรียงลำดับตามความถี่จากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านขยะแห้งมีความถี่มากที่สุด คือจัดตั้งโครงการนำขยะแห้ง เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ แลกกระดาษทิชชู หรือไข่ในหมู่บ้าน รองลงมา ด้านขยะอันตราย คือ การประชาสัมพันธ์ข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับขยะอันตรายและ การจัดตั้งที่จัดเก็บเฉพาะขยะอันตรายในพื้นที่แล้วมีหน่วยงานมาเก็บไป และด้านขยะเปียก มีความถี่น้อยที่สุด คือ การประชาสัมพันธ์/การให้ความรู้ในการนำเศษอาหารมาเป็นจุลินทรีย์หมักทำปุ๋ย
สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1). เพื่อศึกษาการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 2) เปรียบเทียบการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยใช้เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนของประชาชนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมได้แก่ ประชาคมในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 480 ครัวเรือนกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรคำนวณของทาโร ยามาเน่(Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน218 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบปลายปิดและแบบปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t - test ค่า (One–Way ANOVA or F–test) และทดสอบค่าคะแนนเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการ (Least Significant Difference) LSD. ผลการวิจัยพบว่า 1) ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านขยะเปียกและขยะแห้ง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนด้านขยะอันตราย มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ เมื่อจำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ พบว่า โดยรวม อยู่ในระดับมาก 2) ผลการเปรียบเทียบการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ของประชาชน ที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยในครัวเรือนในหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลทรงคนอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยเรียงลำดับตามความถี่จากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านขยะแห้งมีความถี่มากที่สุด คือจัดตั้งโครงการนำขยะแห้ง เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ แลกกระดาษทิชชู หรือไข่ในหมู่บ้าน รองลงมา ด้านขยะอันตราย คือ การประชาสัมพันธ์ข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับขยะอันตรายและ การจัดตั้งที่จัดเก็บเฉพาะขยะอันตรายในพื้นที่แล้วมีหน่วยงานมาเก็บไป และด้านขยะเปียก มีความถี่น้อยที่สุด คือ การประชาสัมพันธ์/การให้ความรู้ในการนำเศษอาหารมาเป็นจุลินทรีย์หมักทำปุ๋ย
This thematic Paper has the following objectives: 1). to study the household garbage management of people in Ban Uea thon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province, 1) to compare the household garbage management in Ban Uea Athon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province of people with different gender, age, education level and occupation, and 3) to study suggestions and guidelines for household garbage management of people in Ban Uea Athon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province. Out of 480 populations in Ban Uea Athon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province, 218 samples obtained by using the calculation formula of Taro Yamane were used in the study. The data were collected by closed-ended and open-ended questionnaires and analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation, t - test, (One – Way ANOVA or F – test) and testing of the mean scores for each pair using the LSD method (Least Significant Difference). The results of the research were as follows: 1) The household garbage management of people in Ban Uea Athon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province in 3 areas was at the highest level. In details, the wet and dry waste was at the highest level. The hazardous waste was at the lowest mean. When classified by gender, age, educational level and occupation, it was found that overall mean was the highest. 2) The comparison of household garbage management in Ban Uea Athon in Songkanong sub-district, Samphran district, Nakhon Pathom province of people with different gender, age, education level and occupation was found differently with statistically significant figure at 0.05 level. 3) Suggestions on household waste management in Ban Eua Arthon in Song Khanong Sub-district, Samphran District, Nakhon Pathom Province sorted by descending frequency were as follows: In the dry waste, the dry waste project should be set up. In hazardous waste, people should receive the correct information through community public relations and the hazardous waste should be disposed and kept separately and collected timely. In the wet waste, the people should be publicized and acknowledged to put the wet garbage into microorganisms and compost.