Search results

33,640 results in 0.11s

หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา, สารนิพนธ์ (ศน.ม) สาขารัฐศาสตร์การปกครอง--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2550
Note: ฉบับอัดสำเนา, สารนิพนธ์ (ศน.ม) สาขารัฐศาสตร์การปกครอง--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2550
หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม) สาขาพุทธศาสน์ศึกษา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2557
Note: ฉบับอัดสำเนา, วิทยานิพนธ์ (ศน.ม) สาขาพุทธศาสน์ศึกษา--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2557
หนังสือ

    View TOC
TOC:
  • มนุษย์กับธรรมชาติ : ความสัมพันธ์ด้านจริยธรรมและสุนทรียภาพ
  • บทบาทพระสงฆ์ในสังคมล้านนา : ฤาจะถึงกาลวิบัติ
  • การท่องเที่ยวกับศาสนา : ส่งเสริมหรือทำลาย
หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ

    ฉบับอัดสำเนา,สารนิพนธ์(ศน.ม)--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,2553
ฉบับอัดสำเนา,สารนิพนธ์(ศน.ม)--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,2553
หนังสือ

    ฉบับอัตสำเนา, สารนิพนธ์ (ศศ.ม) สาขารัฐศาสตร์การปกครอง--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2552
ฉบับอัตสำเนา, สารนิพนธ์ (ศศ.ม) สาขารัฐศาสตร์การปกครอง--มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 2552
หนังสือ

    สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษานโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชนกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชนกรุงเทพมหานครที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา ต่างกัน 3) เพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติงานตามนโยบายให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือท่าพรานนกโดยเลือกสุ่มจากประชาชนที่มาใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาขาลงจำนวน 252 คน โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Specified Sampling) คือ การเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากประชาชนที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือพรานนก ดังนี้ทุกครั้ง จนกระทั่งได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) สถิติ ค่าความถี่ (ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จะเปรียบเทียบหาค่าความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffé) ผลการวิจัย พบว่า 1) นโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด พิจารณาโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ด้านความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 2) นโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ และอาชีพ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานครโดยรวมทั้ง 3 ด้าน ไม่แตกต่างกัน 3) แนวทางการจัดการนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร 1) ด้านความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ ได้แก่ ควรปรับปรุงการให้บริการของพนักงานจำหน่ายตั๋วบนท่าเรือ และอบรมให้ความรู้ด้านงานบริการแก่พนักงาน อย่างสม่ำเสมอ 2) ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ควรมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติ 3) ด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร ได้แก่ ควรมีอุปกรณ์เสื้อชูชีพ ห่วงชูชีพ ให้มีจำนวนเพียงพอกับผู้โดยสาร
สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษานโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชนกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชนกรุงเทพมหานครที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา ต่างกัน 3) เพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติงานตามนโยบายให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือท่าพรานนกโดยเลือกสุ่มจากประชาชนที่มาใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยาขาลงจำนวน 252 คน โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Specified Sampling) คือ การเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากประชาชนที่มาใช้บริการท่าเทียบเรือพรานนก ดังนี้ทุกครั้ง จนกระทั่งได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) สถิติ ค่าความถี่ (ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-Way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จะเปรียบเทียบหาค่าความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffé) ผลการวิจัย พบว่า 1) นโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด พิจารณาโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ด้านความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด 2) นโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ และอาชีพ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานครโดยรวมทั้ง 3 ด้าน ไม่แตกต่างกัน 3) แนวทางการจัดการนโยบายการให้บริการของพนักงานขนส่ง กรมเจ้าท่า ที่มีผลต่อความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานคร 1) ด้านความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ ได้แก่ ควรปรับปรุงการให้บริการของพนักงานจำหน่ายตั๋วบนท่าเรือ และอบรมให้ความรู้ด้านงานบริการแก่พนักงาน อย่างสม่ำเสมอ 2) ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ควรมีเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติ 3) ด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร ได้แก่ ควรมีอุปกรณ์เสื้อชูชีพ ห่วงชูชีพ ให้มีจำนวนเพียงพอกับผู้โดยสาร
This thematic paper had the following objectives: 1) To study the service policy of the transport officers in the Marine Department that affect the safety of the people in Bangkok; 2) To compare opinions on the service policy of the transport officers in the Marine Department that had the effect on the safety of the people in Bangkok, classified with different gender, age, education level; and 3) To suggest guidelines for working according to the service policy for the transport officers in the Marine Department. It was a survey research. The sample group consisted of people who used the Tha Phran Nok Pier Service by selecting randomly from 252 people using the Chao Phraya Express Boat service. Specified sampling was used for the collection of questionnaires from the people who used Prannok Pier Service. The used tools in the research were questionnaires with the reliability of 0.90. The statistics used for data analysis were statistics, frequency (percentage), mean ( ) and standard deviation (SD). T-test and One-Way ANOVA test were used. When there were significant differences at the level of 0.05, the differences were analyzed in pairing by the method of Scheffé. The results of the research were found as follows: 1) The service policy of the transport personnel the Marine Department that affected the safety of people in Bangkok, including all 3 aspects, was at the highest level. Considering by sorting the average from descending to the highest level, the aspect of safety of the berth was at highest average, followed by the aspect of public relations and the aspect of passenger safety as the lowest mean. 2) The service policy of the transport officers in the Marine Department that affected public safety of the people in Bangkok was found that people with different gender, age and occupation had no different opinions on the service policy of the transport personnel the Marine Department that affected public safety of the people in Bangkok, including all 3 aspects. 3) Guidelines for managing the service policy of the transport officers in the Marine Department that affected public safety of the people in Bangkok were as follows: (1) The aspect of safety of the pier: There should improve the service of the ticket agent on the pier and training to provide service knowledge to employees: (2) The aspect of public relations: There should have public relations officer to provide various information to passengers, both Thai and foreigners; and (3) The aspect of passenger safety: There should have a life jacket to provide sufficient numbers of passengers.
หนังสือ

    สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษานโยบายของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของนโยบายและสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ ของประชาชนที่มีเพศ อายุ และอาชีพ ต่างกัน และ3) เพื่อเสนอแนวทางจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 391 คนแล้วใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมติฐานของการวิจัย ใช้การแจกแจง ไค-สแควร์ (Chi-Square) แล้วทำการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) ผลการวิจัยพบว่า 1) นโยบายของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศและอาชีพของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กับต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวม 3 ด้าน ส่วนปัจจัยด้านอายุของประชาชน มีความสัมพันธ์กับ ต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวม 3 ด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ประชาชนเสนอแนวการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คือ ป้ายบอกทางท่องเที่ยวในชุมชน ทำลายทัศนียภาพอันสวยงาม ด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต คือ ประชาชนควรมีส่วนร่วมของการป้องกัน ฟื้นฟู ส่งเสริม สุขภาพอนามัยและสุขาภิบาล สิ่งแวดล้อมชายหาด ด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน คือ ควรปรับปรุง ระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน
สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษานโยบายของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของนโยบายและสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ ของประชาชนที่มีเพศ อายุ และอาชีพ ต่างกัน และ3) เพื่อเสนอแนวทางจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 391 คนแล้วใช้วิธีการสุ่มแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบสมมติฐานของการวิจัย ใช้การแจกแจง ไค-สแควร์ (Chi-Square) แล้วทำการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) ผลการวิจัยพบว่า 1) นโยบายของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ที่มีผลต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รองลงมา คือ ด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศและอาชีพของประชาชน ไม่มีความสัมพันธ์กับต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวม 3 ด้าน ส่วนปัจจัยด้านอายุของประชาชน มีความสัมพันธ์กับ ต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ โดยรวม 3 ด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) ประชาชนเสนอแนวการจัดการสิ่งแวดล้อมชายหาดอ่าวประจวบ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คือ ป้ายบอกทางท่องเที่ยวในชุมชน ทำลายทัศนียภาพอันสวยงาม ด้านการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต คือ ประชาชนควรมีส่วนร่วมของการป้องกัน ฟื้นฟู ส่งเสริม สุขภาพอนามัยและสุขาภิบาล สิ่งแวดล้อมชายหาด ด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน คือ ควรปรับปรุง ระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน
The objectives of this thematic paper were as follows: 1) to study the policy of Prachuap Khiri Khan Municipality affecting the seaside environment management of Prachuap Bay; 2) to study the relationship between policy and environment of Prachuap Khiri Khan Municipality affecting the environmental management of Prachuap Bay, and people with different gender, age and occupation, and 3) to suggest environmental management guidelines for Prachuap Bay. The tools used in the research were questionnaires. The sample group was 391 people in Prachuap Khiri Khan Municipality and Accidental Sampling was used to collect data. The descriptive statistics were used, such as frequency, percentage, mean, standard deviation, hypothesis testing, Chi-Square distribution, and Correlation Coefficient. The results of the research were found as follows: 1) Policies of Prachuap Khiri Khan Municipality affecting the environmental management of Prachuap Bay, were overall at a high level. Considering each aspect, it was found that the most average values were in the aspect of economic and the aspect of tourism development, followed by the aspect of social development and the aspect of quality of life, and the least average aspect was In the aspect of development of infrastructure systems. 2) Personal factors of gender and occupation, had no relationship with the environmental management of Prachuap Bay, in total 3 aspects. Personal factors of age had a relationship with the environmental management of Prachuap Bay, in total 3 aspects, with statistical significance at the level of 0.05. 3) People suggested the environmental management guidelines of Prachuap Bay as follows: In terms of economic development and tourism, tourist signs in the community should be rearranged in order not to destroy beautiful scenery; In terms of social development and quality of life, people should participate in prevention, rehabilitation, promotion of health, sanitation and sanitation. of beach environment; and in terms of development of infrastructure systems, there should improve the number of disaster prevention and mitigation systems.
หนังสือ

หนังสือ

หนังสือ