Search results

1 results in 0.03s

หนังสือ

    วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 395 คน ที่เป็นประชาชนในเขตอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตามโดยใช้ค่าไคสแควร์ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า: 1. ประชาชนมีความคิดเห็นต่อระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านความซื่อสัตย์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนความคิดเห็นต่อระดับในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านแผนพัฒนาหมู่บ้านมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 2. ผลการการทดสอบความสัมพันธ์ของเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างด้านภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในด้านความยุติธรรม ด้านความซื่อสัตย์ ด้านการเสียสละ ด้านความเชื่อถือได้ และด้านความรับผิดชอบ ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น คือ ควรส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพเสริม ทำสินค้าพื้นบ้านให้เป็นโอทอป และมีกองทุนกลางเพื่อพัฒนาพร้อมหาตลาดให้ประชาชนด้วย ควรจัดทำแผน โครงการพัฒนาหมู่บ้าน ควรสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส พร้อมติดตามผลโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 395 คน ที่เป็นประชาชนในเขตอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตามโดยใช้ค่าไคสแควร์ มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า: 1. ประชาชนมีความคิดเห็นต่อระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านความซื่อสัตย์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนความคิดเห็นต่อระดับในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า ด้านแผนพัฒนาหมู่บ้านมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 2. ผลการการทดสอบความสัมพันธ์ของเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 และผลการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างด้านภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในด้านความยุติธรรม ด้านความซื่อสัตย์ ด้านการเสียสละ ด้านความเชื่อถือได้ และด้านความรับผิดชอบ ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น คือ ควรส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพเสริม ทำสินค้าพื้นบ้านให้เป็นโอทอป และมีกองทุนกลางเพื่อพัฒนาพร้อมหาตลาดให้ประชาชนด้วย ควรจัดทำแผน โครงการพัฒนาหมู่บ้าน ควรสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส พร้อมติดตามผลโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
The objectives of this thesis are as follows: 1) to study the level of ethical leadership in work performance of the village headman 2) to study the relationship between personal factors and ethical leadership with work performance of the village headman 3) to study the recommendations of ethical leadership towards work performance of the village headman using a questionnaire to collect data from a sample of 395 people who were residents of Ubonrat District, Khon Kaen Province. Data were analyzed using descriptive statistics such as percentage, mean, standard deviation. The relationship between independent variables and dependent variables was studied using chi-squared values which was statistically significant at the 0.05 level. The results of research were found that: 1. People's opinions on the level of ethical leadership in work performance of the village headman in all 5 aspects were at a high level when considering each aspect, it was found that honesty had the highest average. As for the opinions on the level of work performance of the village headman in all 5 aspects, it was at a high level when considering each aspect, it was found that the village development plan had the highest average. 2. The results of the relationship test were gender, age, education level, occupation and monthly average income. There is no relationship with work performance of the village headman, significantly at the 0.05 level and the test result of the relationship between ethical leadership and work performance of the village headman in justice, honesty, sacrifice, reliability and responsibility. There was no significant relationship with work performance of the village headman. 3. Recommendations on ethical leadership in work performance of the village headman in Ubonrat district, Khon Kaen Province is to encourage people to have additional occupations, making local products into OTOP and there is a central fund to develop and find a market for the people as well. The village headman should prepare a village development project plan, support scholarships for children, youth, the underprivileged and follow up on the project results to be consistent with the local government organizations.