การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำแนกตามตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนในโรงเรียนประถมศึกษาในประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำนวน 117 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า มีค่า IOC ระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐาน ด้วยการหาค่า t-test และ F-test ผลการวิจัย พบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 โดยรวมมีระดับการปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากสูงไปหาต่ำ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และด้านการนิเทศการศึกษา 2. การเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำแนกตามตำแหน่ง โดยรวมและด้านการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการนิเทศการศึกษาไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจำแนกประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน 3. ข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 สถานศึกษาควรส่งเสริมและพัฒนาทักษะครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ด้าน ภาษาต่างประเทศ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในด้านการจัดนวัตกรรมการเรียนรู้หรือจัดกิจกรรมใหม่ๆร่วมกับโรงเรียน เครือข่ายและสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดทำแหล่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ประชาคมอาเซียน
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำแนกตามตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนในโรงเรียนประถมศึกษาในประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำนวน 117 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า มีค่า IOC ระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมติฐาน ด้วยการหาค่า t-test และ F-test ผลการวิจัย พบว่า 1. สภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 โดยรวมมีระดับการปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากสูงไปหาต่ำ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และด้านการนิเทศการศึกษา 2. การเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันของการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 จำแนกตามตำแหน่ง โดยรวมและด้านการพัฒนาการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ด้านการนิเทศการศึกษาไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจำแนกประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมและรายด้าน ไม่แตกต่างกัน 3. ข้อเสนอแนะการบริหารงานวิชาการสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 สถานศึกษาควรส่งเสริมและพัฒนาทักษะครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ด้าน ภาษาต่างประเทศ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในด้านการจัดนวัตกรรมการเรียนรู้หรือจัดกิจกรรมใหม่ๆร่วมกับโรงเรียน เครือข่ายและสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดทำแหล่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่ประชาคมอาเซียน
The purposes of the thesis were: 1) to study the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1. 2) to compare the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1 to differences of their position and work experiences, 3) to examine suggestions for the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1. The sampling groups employed for the research comprised 117 subjects working for their schools. The research instrument used for data collection was the Likert-type questionnaire, of which every question in the questionnaire had its IOC between 0.67 and 1.00, and its reliability at 0.94. Statistics for data analyses embraced: frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, and F-test, comparing paired differences by Scheffe’s method. Results of the study have found The following findings: 1. Current condition the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1. Overall, there is a level of practice Very high Sort by high to low is development of the curriculum, development of teaching, development of learning resources, mmeasurement and evaluation of learning, ddevelopment of Educational technology media and Education supervision. 2. to compare the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1 to differences of their position Overall, and the development of teaching and learning, measurement and evaluation of learning, development of learning resources, education supervision not different. The development of the curriculum, development of educational technology media. There were statistically significant differences at the .05 level. Classification of work experience overall and individual not different. 3.The suggestion the academic administration amidst the ASEAN community atmosphere of the schools under the office of primary education service, Roi Et area 1. Should promote and develop teacher skills the ability to manage the learning. Foreign language. Organize learning activities the innovation of learning or organize new activities with the school network. Collaborate with the private sector. To develop learning resources for the development of learners in the ASEAN community.