Contents/Summary
- Summary
-
สารนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย 2) เพื่อเปรียบเทียบวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยจำนวน 215 คน ซึ่งได้จากการกำหนดโดยใช้สูตรของทาโร่ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม (Questionnaire) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (𝑥̅) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D.) และสถิติอนุมาน ได้แก่ การทดสอบค่า (t-test) การทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (F-test or One – Way ANOVA) หากพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจะทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ที่มี เพศ อายุ และรายได้ต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย โดยรวม 3 ด้าน ไม่แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้ 2) บุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ที่มี ระดับการศึกษา ที่แตกต่างกัน มีวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย โดยรวม 3 ด้าน แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้ 3) บุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ที่มี เพศ อายุ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ในด้านคุณธรรมจริยธรรม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งไปตามสมมติฐานที่ตั้งเอาไว้ และด้านวิสัยทัศน์ กับด้านความรู้ความสามารถ ไม่แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 1) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับปัจเจกบุคคล (Individual) หรือตัวบุคลากร ผลการศึกษาวิจัยมีวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย โดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี เป็นเพราะบุคคลากรกรมประชาสัมพันธ์ มีทัศน์ที่ดีต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีการดูแลเอาใจใส่ประชาชนได้ดี การตอบรับของประชาชนก็ย่อมดีเสมอกัน เพราะการเอาใจใส่ คอยช่วยเหลือ ให้ความสำคัญต่อประชาชน และทำหน้าที่แทนประชาชนได้ดี ถึงจะเป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้สมบูรณ์ 2) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับ มีวิสัยทัศน์ของบุคลากรกรมประชาสัมพันธ์ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยมีคุณลักษณะที่ดี ทั้งวิสัยทัศน์ความรู้ความสามารถ และคุณธรรมจริยธรรมที่ดี หรือมีการอบรมคุณลักษณะให้แก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย แล้วสามารถนำมาปรับใช้จริงได้จะเป็นผลดีต่อประชาชน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัวของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเองด้วยส่วนหนึ่ง ว่าจะนำมาปรับใช้ในการบริหารได้ดีเพียงใด หากผ่านการอบรม หรือมีการจัดอบรม คุณลักษณะอาจทำให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เข้าใจถึงแนวทางการปฏิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น
This thematic paper has the following objectives: 1) to study the opinions of the Public Relations Department personnel to members of the Thai House of Representatives, 2) to compare the opinions of the Public Relations Department personnel to members of the Thai House of Representatives, and 3) to propose guidelines for developing the opinions of the Public Relations Department personnel to members of the Thai House of Representatives. The data of this quantitative research were collected from 215 samples by using the Taro Yamane formula. The instrument used in the research was a questionnaire. The statistics used to analyze the data were frequency (Frequency), percentage (Percentage), mean (̧‘ÆÌ…) value. The standard deviation (Standard Deviation: SD) and the inferential statistic were t-test, F-test or One-Way ANOVA if statistically significant differences were found. The mean difference is tested by pairs using the LSD (Least Significant Difference) method. The results showed that: 1) Public relations department personnel with different gender, age and monthly income have opinions towards members of the Thai House of Representatives in 3 aspects indifferently. Therefore the result was not in accordance with the hypothesis set. 2) The Public relations department personnel with different education level have different opinions towards the members of the Thai House of Representatives in 3 aspects with statistic figure at the 0.05 level, which was in line with the hypothesis set. 3) The Public Relations Department personnel with different gender, age, education level and monthly income have different opinions to members of the Thai House of Representatives in the field of morality with statistically significant figure at the 0.05 level, which was in accordance with the hypothesis set. But the difference was not found in the field of knowledge and ability as the hypothesis set. Suggestions: 1) In individual policy, the opinion of personnel from the Public Relations Department towards members of the Thai House of Representatives in 3 aspects was at a high level. That is a positive attitude for members of the Thai House of Representatives to take good care of people, response of the peopl這s requirements, and provide assistances to people. It is an indicator of members of the House of Representatives as the peopl這s representatives in doing their duty completely. 2) In morality, knowledge and capability policy, if members of the Thai House of Representatives have good characteristics in vision, knowledge, abilities and morality and they can apply it in practice, it will be beneficial to the House of Representatives themselves and to the people. But it all depends on training, practicing and applying.
Bibliographic information